ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

2007/09/01 ลองไปยืนบนยอดเขาฟูจิซัน ,2007/09/04

โครงการนี้ผมคิดขึ้นตั้งแต่วันที่17สิงหาคม2007 จุดประสงค์หลักเป็นเรื่องการฝึกภาษานอกตำรา เหมือนอย่างเคย แต่พอคันหาข้อมูลใน blog ต่างๆ กลับเริ่มรู้สึกแปลกๆ ว่า ทำไมจะต้องปีนเขากันทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ต้องนอน (ฟังมาจากเพื่อนๆ ที่ได้ไปปีนมา) ปีนกันชนิดว่า เริ่มปีนบ่าย ถึงยอดเขาเช้าอีกวันเลย  ปีนกันข้ามวันข้ามคืนกันเลย

 ข้อมูลภูเขาฟูจิ(ซัน)เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น อันนี้ผมพอรู้มาบ้าง ตั้งแต่อยู่เมืองไทย แต่เรื่องที่สามารถปีนได้ถึงยอดภูเขาเลย อันนี้ไม่เคยรู้มาก่อน แต่ก็ยังรู้สึกอยากจะปีนสักเท่าไหร่  ยิ่งมารู้ค่าเดินทาง และอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับการปีนเขา รวมๆแล้วมากกว่าหมึ่นเยน อันนี้ก็ทำให้เลิกคิดไปพักหนึ่ง ก็ดูข้อมูลอย่างเดียว

  ถึงตรงนี้ครับที่ทำให้เริ่มรู้สึกอยากปีนจริงๆ เพราะมีเพื่อนที่เขาไปปีนแล้วไม่สามารถขึ้นถึงยอดได้ เพราะมีปัญหาเรื่องระบบหายใจมีอาการปวดหัว และขาลงจากเขาก็ลำบากมากๆ แต่พอดีเจอตั๋วรถราคาถูก ไปกลับจาก 新宿 ←→富士山五合目 โดยไม่ต้องต่อรถ 5,200円 เป็นราคาที่พอรับได้ จากนั้นก็เริ่มศึกษาเส้นทาง เวลารถออก และวันที่คิดว่าสามารถไปและกลับมา มีเวลาพักหนึ่งวันก่อนทำงาน ก็สรุปว่าต้องเดินทางค่ำวันศุกร์หลังเลิกงานไปเลย จากที่ทำงานใช้เวลา 20นาที แต่ยังไม่ได้จองตั๋วรถ ไปหาดูอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก่อน ก็เลือกเอาแบบมือสมัครเลย ไม่ต้องเอาของดีที่สุดพอใช้ได้ก็พอ

 ได้รองเท้ามาราคาถูกมากๆ 160円
 

ที่เหลือก็หาซื้อตาม  UENO (上野) และร้าน 100円 ตามรูปครับ


ในช่วงนั้นยังมีเวลาเตรียมร่างกายอีกประมาณ 2อาทิตย์ ต้องออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง และต้องขึ้นลงตึกทางบันได หลังจากแน่ใจว่าจะไปแน่ๆก็ให้เพื่อนญี่ปุ่นพาไปซื้อตั๋วที่ ร้านอยู่ด้านหน้าทางเข้าของบริษัท ได้เวลาตามเวลาที่ต้องการเลย และก็ไม่ได้จ่ายค่าบริการเพิ่มด้วยครับ


จากนั้นก็เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะต้องเดินทางแล้ว ก็ต้องเริ่มซื้อของกินของใช้ ของที่ซื้อมีทั้งได้ใช้และไม่ได้ใช้ครับ




จากรูปแถบสีแดงคือไม่ได้ใช้ เรื่องที่กังวลตอนก่อนไปคือ ไฟฉ่าย เสื้อกันฝนและรองเท้า เพราะดูพยากรณ์อากาศแล้ว ฝนตกแน่ๆ รองเท้าที่มีก็กันฝนไม่ได้ พอจะถึงวันไปจริงๆ อากาศเป็นใจเมฆฝนไปแล้วครับ มีแต่เมฆขาว

การเดินทางเริ่มจากที่ทำงาน งานเลิก 5โมงครึ่ง ออกประมาณเลยครึ่งไปหน่อย ขึ้นสาย yamanote 山手線 ไปลงที่สถานนี shijuku 新宿駅

แล้วก็เดินหาที่ขึ้นรถบัส highwaybus หายากมาก
โชคดีที่มีคนใจดี ผมแค่ถามทาง แต่เขาจับมือผมพาไปถึงที่เลย



อยู่หน้าห้าง yodobashi camera ヨドバシカメラ ก็พักกินอาหารเย็น และมีเวลานั่งพักยี่สิบนาที ได้ที่นั่งทั้งไปและกลับ 1D รถออก 19:50 ขาไปได้นอนสบายๆ ประมาณหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ที่เหลืองหลับๆตื่นๆ รถไปถึงก่อนเวลาประมาณ 15นาที    22:00







ก็เริ่มเปลี่ยนชุดและก็เริ่มออกเดินทาง ถุงสีขาวเป็นขนมน้ำร่วมประมาณ 2 กิโลกว่า กะจะถ่ายน้ำหนักจากหลัง (ช่วยได้นิดหน่อย ทำไปตามภาษาคนไม่เคยปีนเขา)

พอเริ่มออกเดินได้สักพักก็เจอป้ายบอก Route เส้นทาง


พอเดินไป เริ่มเจอทางขึ้นเขาออกอาการหมดแรกเลย คิดเหมือนกันว่าจะปีนไหวหรือเปล่า
ก็ปีนไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุด และก็ต้องระวังไม่ให้เหนื่อยมาก เพราะอาจเป็นลม อันตรายมาก ค่อยๆเดินขึ้นทีละก้าวสองก้าว เพราะมันเหนื่อยจริงๆ (เหงื่อไหลแบบน้ำก๊อกปิดไม่สนิท)


ชั้นเจ็ด 2,700M 2007年9月1日, 0:32:32
(2007年9月1日 = ปี2007 เดือน9 วัน1)
(七合目 日の出館 น่าจะแปลว่าที่พักพระอาทิพยขึ้น)



อุณหภูมิอยู่ที่ 9องศา


จากชั้นนี้ไปก็เลิกใช้ไฟถ่าย เพราะไม่รู้จะเปิดไปทำมั้ยมันก็มองไม่เห็นอยู่ดี


จากตรงนี้ทางเริ่มเป็นการปีนจริงต้องให้สองมือช่วย และยากสำหรับผู้สูงอายุ ผมปีนยาวโดยไม่พักไปถึง
ชั้น8 ต้องผ่านที่พักร้านอาหาร อีกห้าแห่ง


ชั้นที่8    3100M 2007年9月1日, 2:14:46
(八合目 太子館 น่าจะแปลว่าที่พักเด็กอ้วน หรือว่าไข่ปลา ไม่แน่ใจ )
ผมเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ และก็พักปรับระดับความดันเพราะเริ่มมีอาการปวดหัว พักประมาณชั่วโมงกว่าๆ



ชั้น8 3,200M 2007年9月1日,3:55:54 
(八合目 白雲荘 น่าจะแปลว่าอาณาจักรเมฆขาว )



ชั้น8 3,250M 2007年9月1日, 4:12:12
(八合目 元祖室 น่าจะแปลว่าห้องต้นแบบ がんそしつ)

ในป้ายเขียนว่า (頂上まで約 1時間50分) ถึงยอดเขาใช้เวลาเดินเฉลี่ย 1ชั่วโมง50นาที 
หลังจากนั้นก็ออกเดินยาวถึงชั้นแปดรองสุดท้าย

ชั้นแปด 3,400M 2007年9月1日, 4:43:38
(本八合目 富士山ホテル) ほんตัวนี้แปลว่าของแท้ น่าจะแปลว่า ชั้นแปดที่แท้จริง โรงแรมฟูจิซัน)



อุณหภูมิ 7องศา ถ้านึกภาพไม่ออก ประมาณตู้แช่น้ำตามร้าน 7-11(10องศา)
น้ำที่ติดตัวขึ้นไปเย็นกว่าในตู้เย็น


จุดนี้ผมนั่งพักรอดูพระอาทิตย์ขึ้น และปรับแรงดัน เริ่มมีอาการปวดหัวอีกแล้วครับ

2007年9月1日, 5:02:04 เริ่มเห็นแสงสีเหลือง














ดินเป็นสีแดง






2007年9月1日, 5:26:00 เริ่มมีแดดอ่อนๆ






2007年9月1日, 5:24:22 เริ่มออกเดินทาง


ชั้นแปดสุดท้ายแล้ว 2007年9月1日, 6:01:22 (本八合目 江戸室 えどชื่อเมืองหลวงเก่าของโตเกียว สมัยเอโดะ น่าจะแปลกว่าห้องเอโดะ )


ชั้นนี้ห่างจากชั้นก่อนไม่กี่เมตรเดินไม่กี่ก้าวเอง จากภาพจะเห็นหลังคาของชั้นนั้นด้วย


มองไปรอบๆ จะเห็นคนเริ่มลงแล้ว, ทางขึ้นและลงแยกกัน





จากนี้จะต้องผ่านประตูโทริสีขาว สองประตู




2007年9月1日, 6:36:56 เริ่มปีนอีกครั้ง ช่วงนี้เป็นช่วงที่ ถ่ายภาพจะไม่เห็นพื้นดิน มีแต่เมฆขาวก็สวยดีนะ เหมือนเมืองสวรรค์เลย




2007年9月1日, 6:53:08 ถึงประตูแรก



ทางขึ้นบางช่วงก็เป็นแบบนี้







คนที่นอนหมดแรงนั้น คือคนที่เดินคู่มาตั้งแต่ชั้นแปดหลายๆคน จะออกอาการไปไม่ไหวในช่วงนี้ ผมเองก็รู้สึกว่า สมองไม่ค่อยสั่งการ หาของในกระเป๋าก็ไม่เจอ มันรู้สึกเหมือนหัวหนักเป็นร้อยกิโล
แต่ก็ตั้งสติ พยายามถ่ายรูปเก็บกับมา


ภาพนี้ผมชอบที่สุด ดูแล้วรู้สึกดี
เป็นภาพคนแก่ที่สามารถปีนจนมาถึงชั้นนี้ได้
"หันหลังให้พระอาทิตย์ หน้ามองยอดฟูจิซัง"





ถึงประตูสอง 2007年9月1日, 7:44:48 มีคนใจดีถ่ายรูปให้



เสาที่เห็นหลายคนจบโปรแกรมปีนเขาที่นี่,
แต่ที่จริงเสาจริงต้องไปอีกประมาณ ครึ่งชั่วโมง
แนะนำให้เดินวนขวา



ผมเลือกเดินรอบปากภูเขาไฟ เพราะเวลายังเหลือ รถขากลับจองไว้ 16:00 ยังไม่รู้จะทำอะไรดี เวลาเหลือเยอะ

โดยเดินวนซ้าย ระหว่างทางก็เห็นคนนอนตามทางทั่วไป




นี่คือจุดหมายของโครงการนี้






ทางขึ้นสุดยอดมากๆ เดินได้สองก้าวหยุด สองก้าวหยุด


ในที่สุดก็ถึงจุดที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น
เสานี้ว่างครับ ไม่ต้องต่อคิวถ่ายรูป 
มาให้ถึงนะครับ



เป็นการปีนภูเขาที่สูงที่สุดของผม การปีนเขาฟูจิซันครั้งนี้
 ได้สอนอะไรหลายอย่าง ตั้งแต่ก่อนมา จนถึงตอนนี้ทำให้รู้ว่า
เราเลือกทำบางอย่างไม่ได้ อาจเป็นเพราะเงื่อนไขจำกัด แต่เราเลือกที่จะเอาชนะทุกๆอย่างได้
ถ้าใจเราสู้ เป็นสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากวัฒนธรรมของญี่ปุ่น 文化 ตลอดทางจะได้ยินคำว่า 頑張れ ganbare แปลว่าสู้ๆ ประมาณนั้น เวลาที่คนญี่ปุ่นเจอปัญหาจะไม่ค่อยได้ยินคำว่าได้แค่ไหนเอาแค่นั้น หรือทำเท่าที่ทำได้ จะได้ยินแต่สู้ๆ หรือพยายาม ganbatte kudasai  

จุดเป็นหอคอย จากเสาเดินเข้าไปอีก 10 เมตร สูงกว่าเสา ประมาณ 2 - 3 เมตร
ถ่ายรูปไม่ต้องเข้าคิว  มีคนรอ ประมาณ 2 - 3 ครับ   รอเปลี่ยนกันถ่าย 
แบบ สบายๆ check ภาพ ok , ไม่ ok ก็ขอถ่ายไหมได้  




ปากภูเขาไฟ ไม่มีอะไร คิดว่าสามารถลงไปเดินได้ แต่อยากทำเลยครับ


ขาลงอากาศก็เป็นใจไม่มีแดดเลย อากาศเย็นตลอดทาง ให้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง




ช่วงบ่ายก็มีชุดใหม่ พากันขึ้นมาอีก



2007年9月1日, 13:37:44 ลงถึงชั้นห้า 五合目 มีคนใจดีถ่ายให้อีกแล้ว



จากนั้นก็ไปเขียนไปรณียบัตรส่งไปเมืองไทย ค่าส่งไปไทยก็ 70円 
ถูกมากๆ แต่ผมติดไป 80円(ดวง 70 ไม่สวย)
ส่งภายในญี่ปุ่นใช้เวลา 3 วัน, ส่งกลับไทย หนึ่งอาทิตย์ครับ

จม.  ส่งถึงตัวเองที่หอพัก  AOTS TKC


จบการเดินทางถึง สถานนี 新宿 เวลา 18:14:22
รถจอดใกล้ทางลงสถานนีรถไฟหมายเลยเก้า

ยังมีเวลาทันกลับไปกินข้าวเย็นที่ AOTS ครับ หมดแรง。

ข้อมูล: http://www.kakimi.co.jp/fuji.htm

ความคิดเห็น

Earth กล่าวว่า
พี่กังสุดยอดจริง ๆ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

により、によって、による、によっては = で

により、によって、による、によっては เป็นไวยากรณ์ระดับ 2 ใช้ได้หลักๆ 5 เรือ่งครับ 1. โดย (ใช้ใส่หลังคำนามที่เป็นผู้กระทำกริยาในประโยคถูกกระทำ) アメリカ大陸はコロンバスにより発見されました。 2.จาก (ใช้แสดงสาเหตุ หรือ เหตุผล) 不注意によって大事故が起こることもある 3.ด้วย (ใช้แสดงวิธีการ) バスによる移動は便利だが時間がかかる。 4.แตกต่างกันตาม... 性格は人によって違う。 5.ขึ้นอยู่กับ この薬は人によっては副作用が出ることがある。 ครับ เวลาคุณแปลไม่ออก ให้แทน ไปด้วย คำว่า で ครับ จำทำให้พอเดาได้ครับ จาก:http://www.j-doramanga.com/webboard_detail.php?id=1441

วิธีการตรวจสอบ บัตรประชาชน ถูกต้องหรือไหม ?

 ที่มา   -->  https://nattster.wordpress.com/2006/09/08/id-verification/ Check Digit คืออะไรหนอ? Check Digit เป็นตัวเลข 1 หลัก ที่เกิดจากการนำเลขหลักอื่นๆ มา บวก ลบ คูณ หาร กัน และ Check Digit นี่หละครับ จะช่วยให้เราตรวจสอบในเบื้องต้นได้ว่า ข้อมูลที่กรอกมาถูกต้องรึเปล่า เวลาเราจะตรวจสอบว่าข้อมูลที่กรอกมาถูกต้องรึเปล่า เราจะคำนวณ Check Digit จากเลขหลักอื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบกับ Check Digit ที่เขากรอกมาว่าตรงกันมั้ย ถ้าตรงกันก็แสดงว่าข้อมูลถูกต้องไม่ผิด ไม่มั่ว แต่ถ้าไม่ตรงกัน ก็แปลว่า ข้อมูลที่กรอกมามีข้อมูลซักหลัก หรือ สองหลักที่ผิด เราก็สามารถเตือนให้ผู้ใช้ทราบและกรอกใหม่ อีกครั้งได้ เอ้า มาลองคำนวณ Check Digit ของรหัสประชาชนเรากันดีกว่า ขอยกตัวอย่างรหัสประชาชนนี้ละกันครับ 1-2015-41462-23-4 ไหน ตอบหน่อยซิ ว่า Check Digit ของรหัสประชาชนนี้คือเลขอะไรคร้าบ……. เอ้า ถามเองตอบเองก็ได้ Check Digit ของรหัสประชาชนนี้คือเลข 4 (เลขตัวสุดท้ายนั่นเอง) เรามาดูกันว่า เลข 4 เกิดจากอะไรหว่า? คำนวณมาได้ไง? มั่วอ๊ะเปล่า? ขั้นตอนที่ 1 – เอาเลข 12 หลักมา เขียนแยกหลักกันก่อน

กล้วยไม้,Orchid,蘭「ラン、ran」

蘭「รัน」 ภาษาไทยก็คือ กล้วยไม้ 蘭の花「รันโนะฮาืืนะ」 ดอกกล้วยไม้ เทคนิคการเพาะปลูกกล้วยไม้ของญี่ปุ่น แตกต่างจากไทยมาก อาจเป็นเพราะภูมิอากาศที่ต่างกัน และวัสดุเพาะปลูกก็ต่างกัน วิธีการจัดแต่งก็ต่างกัน http://www.yume.vvv7.net/shopping/shop/flower/ran_shibata/index.html ต้นนี้ราคา 7,800 เยนรวมภาษี 5% ประมาณ 2,200บาท