วันนี้เป็นวันที่สาม แผนกำหนดไว้เป็นวัน OSAKA City Tour
ก่อนออกจาก KKC(Kansai Kenshuu Center) คุณนากะ ได้แจกเงิน 500เยน และตั๋วสำหรับใช้ในขาไป ส่วนขากลับให้ซื้อเอง และให้ทุกคนใช้เครื่อง receiver(เครื่องรับวิทยุ) เพื่อเวลาเดินไปคุณนากะ็จะได้อธิบายไปด้วยตลอดทาง
จากนั้นก็เริ่มเดินทาง อย่างแรกที่อธิบายคือ ตู้ไปรษณีย์วิธีใช้ก็เหมือนของบ้านเรา ,อย่างที่สองป้อมตำตรวจ โกบัง こうばん มาจากภาษาอังกฤษ แต่ทำไมเป็นตัวฮิรางานะ ひらがな ก็ไม่รู้ซิ สงสัยใช้มานานแล้ว จากนั้นก็เดินไปจนถึงสถานนีอาบิโกะ あびこ เป็นสถานนี้รถไฟใต้ดินที่ใต้ちかけつ ที่ใกล้ที่สุด
เวลาซื้อตั๋วเราต้องดูว่าเราจะไปไหนแล้วก็ดูราคาที่แสดง จากนั้นก็ไปที่ตู้ขายตั๋วแล้วใส่เงิน เลือกขบวนที่จะขึ้น ปกติก็จะมีสีที่แตกต่างกัน ทำให้ช่าวต่างชาติอย่างเราเข้าใจได้ง่าย แต่จริงก็ไม่ต้องสนใจสีอะไร ราคาตรงกันก็ใช้ได้ พอกดสีขบวนที่จะไป ก็จะมีราคาแสดงให้เรากดตรงจำนวนเงินที่เราจะซื้อ (ต่างจากบ้านเราที่ใส่เงินหลังจากที่เลือกปลายทางที่จะไป) พอซื้อตั๋วเสร็จก็ให้ดูดีๆ ว่าเราต้องเปลี่ยนสายอะไรบ้าง และที่สถานนีไหน เอานี้สำคัญเพราะถ้าดูผิดจะเสียเวลาหลงคงไม่หลงเพราะป้ายทำดีมาก
ระหว่างทางคุณนากะเล่าให้ฟังว่า (คนญี่ปุ่นที่โอซาก้าจะเดินชิดขาว ที่โอซาก้าสมัยก่อนคนที่เป็นสามูไรมีมาก และส่วนมากก็ถนัดขาว เวลาชักดาบจะได้ชักอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนที่นี่เดินชิดขาว ส่วนที่โตเกียวจะชิดซ้ายเหมือนบ้านเรา และรถยนต์ก็ขับเหมือนบ้านเรา)
มาถึงพิฑิธภัณฑ์โอซาก้าเวลา 14:20 มีทั้งหมด 8ชั้น ชั้นบนสุดเป็นสมัยโบราณที่สุด แต่ละชั้นก็จะอธิบายความเป็นอยู่ของคนแต่ละสมัย ใช้เวลาเวลา ชั่วโมงครึ่งหลังจากนั้น คุณนากะก็พาไปย่านเครื่องใช้ไฟฟ้าของโอซาก้าชื่อว่า Nipponbashi จากนั้นก็แยกย้ายกัน แล้วแต่ใครจะเดินดูอะไร เป็นอันจบการทัศนศึกษานอกสถานทีของวันนี้
หลังจากนั้นก็เดินดูกล้องที่ BigCamera ビックカメラ ที่ญี่ปุ่นก็เหมือนศุนย์การค้าอิเล็กทรอนิกส์ (คอม,กล้อง,เกม) เดินดูก็ไม่ได้ซื้ออะไรที่นี่ มี duty free ด้วย(สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ไม่เกินหกเดือนจะได้ยกเว้นภาษี5%) เดินถูกของไปเรื่อยๆ จนถึงเวลา 18:00 ก็กลับ KKC ตอนนี้ก็ได้ทดลองเดินทางด้วยตนเอง และเปลี่ยนรถเอง ง่ายมากอยู่ที่ต้องดูแผนที่ให้ดีๆ และต้องไปให้ถูกทิศ พอถึงKKC ก็ได้เวลารับประทานอาหารเย็น
/// สำหรับรูปจะ up ที่หลังครับ
ก่อนออกจาก KKC(Kansai Kenshuu Center) คุณนากะ ได้แจกเงิน 500เยน และตั๋วสำหรับใช้ในขาไป ส่วนขากลับให้ซื้อเอง และให้ทุกคนใช้เครื่อง receiver(เครื่องรับวิทยุ) เพื่อเวลาเดินไปคุณนากะ็จะได้อธิบายไปด้วยตลอดทาง
จากนั้นก็เริ่มเดินทาง อย่างแรกที่อธิบายคือ ตู้ไปรษณีย์วิธีใช้ก็เหมือนของบ้านเรา ,อย่างที่สองป้อมตำตรวจ โกบัง こうばん มาจากภาษาอังกฤษ แต่ทำไมเป็นตัวฮิรางานะ ひらがな ก็ไม่รู้ซิ สงสัยใช้มานานแล้ว จากนั้นก็เดินไปจนถึงสถานนีอาบิโกะ あびこ เป็นสถานนี้รถไฟใต้ดินที่ใต้ちかけつ ที่ใกล้ที่สุด
เวลาซื้อตั๋วเราต้องดูว่าเราจะไปไหนแล้วก็ดูราคาที่แสดง จากนั้นก็ไปที่ตู้ขายตั๋วแล้วใส่เงิน เลือกขบวนที่จะขึ้น ปกติก็จะมีสีที่แตกต่างกัน ทำให้ช่าวต่างชาติอย่างเราเข้าใจได้ง่าย แต่จริงก็ไม่ต้องสนใจสีอะไร ราคาตรงกันก็ใช้ได้ พอกดสีขบวนที่จะไป ก็จะมีราคาแสดงให้เรากดตรงจำนวนเงินที่เราจะซื้อ (ต่างจากบ้านเราที่ใส่เงินหลังจากที่เลือกปลายทางที่จะไป) พอซื้อตั๋วเสร็จก็ให้ดูดีๆ ว่าเราต้องเปลี่ยนสายอะไรบ้าง และที่สถานนีไหน เอานี้สำคัญเพราะถ้าดูผิดจะเสียเวลาหลงคงไม่หลงเพราะป้ายทำดีมาก
ระหว่างทางคุณนากะเล่าให้ฟังว่า (คนญี่ปุ่นที่โอซาก้าจะเดินชิดขาว ที่โอซาก้าสมัยก่อนคนที่เป็นสามูไรมีมาก และส่วนมากก็ถนัดขาว เวลาชักดาบจะได้ชักอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนที่นี่เดินชิดขาว ส่วนที่โตเกียวจะชิดซ้ายเหมือนบ้านเรา และรถยนต์ก็ขับเหมือนบ้านเรา)
มาถึงพิฑิธภัณฑ์โอซาก้าเวลา 14:20 มีทั้งหมด 8ชั้น ชั้นบนสุดเป็นสมัยโบราณที่สุด แต่ละชั้นก็จะอธิบายความเป็นอยู่ของคนแต่ละสมัย ใช้เวลาเวลา ชั่วโมงครึ่งหลังจากนั้น คุณนากะก็พาไปย่านเครื่องใช้ไฟฟ้าของโอซาก้าชื่อว่า Nipponbashi จากนั้นก็แยกย้ายกัน แล้วแต่ใครจะเดินดูอะไร เป็นอันจบการทัศนศึกษานอกสถานทีของวันนี้
หลังจากนั้นก็เดินดูกล้องที่ BigCamera ビックカメラ ที่ญี่ปุ่นก็เหมือนศุนย์การค้าอิเล็กทรอนิกส์ (คอม,กล้อง,เกม) เดินดูก็ไม่ได้ซื้ออะไรที่นี่ มี duty free ด้วย(สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ไม่เกินหกเดือนจะได้ยกเว้นภาษี5%) เดินถูกของไปเรื่อยๆ จนถึงเวลา 18:00 ก็กลับ KKC ตอนนี้ก็ได้ทดลองเดินทางด้วยตนเอง และเปลี่ยนรถเอง ง่ายมากอยู่ที่ต้องดูแผนที่ให้ดีๆ และต้องไปให้ถูกทิศ พอถึงKKC ก็ได้เวลารับประทานอาหารเย็น
/// สำหรับรูปจะ up ที่หลังครับ
ความคิดเห็น