Gung Note

วันเวลาผ่านไป สิ่งที่เคยเห็น.. สิ่งที่เคยได้ยิน.. และสิ่งที่ได้ประสบ... มันจะคงอยู่ในนี้ตลอดไป.

วันอังคาร, มกราคม 30, 2550

วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2007 ,KKC - Osaka

วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2007 ,KKC - Osaka
---------------------------------------------------------
วันนี้ตอนเช้ามีการสอบทั้งข้อเรียน และสัมภาษณ์ก็คิดว่าพอทำได้นะ หลังสอบอาจารย์ก็แจ้งให้ทราบ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการสอน ตอนเช้าจะเรียน วันละบท ตอนนี้ก็อยู่บทที่30 มีทั้งหมด 50บท ช่วงบ่ายจะเป็นฝึกพูด และคันจิ ในส่วนของคันจิก็ให้ลองทำข้อสอบ 100 ตัว ก่อนถ้าทำได้ก็จะให้เรียนเล่มใหม่ 300ตัว ช่วงบ่ายก็ฝึกพูด หลังเลิกเรียนก็กลับห้อง เขียน Blog พอถึง 18:30 เพื่อนๆ ก็มาเจอกันท่านข้าวด้วยเหมือนทุกๆ วัน

วันนี้รู้สึกว่าจะร้อนในกินอะไรก็ไม่ค่อยอธ่อย ไม่รู้ว่ากินอะไรเข้า หรือกินน้ำน้อยไปก็ไม่รู้ กลับถึงห้องกว่า็จะเอายาแก้ร้อนในมากิน แต่ตอนนี้เพื่อนๆ จองห้องคาราโอเกไว้ ช่วง 20:00-22:00 ก็เข้าไปดูว่าเป็นไง ไม่ได้ร้องกับเขา จากนั้นก็ขึ้นห้องอ่านหนังสือ เตรียมบทเรียน และทำการบ้าน
[21:45] bye
----------------------------------------------------------
ขอบคุณครับ ( ありがとう ございます。)   
ธรรมศักดิ์ สงวนสัจวาจา ( タンマサック サグアンサッタワージャーです。)

วันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2007

ผ่านมาหลายวันไม่มีเวลาเขียนบรรทึก พอดีวันนี้มีเวลาก็ขอเขียนรวมเลยแล้วกัน
วันนี้ตื่นตอน 8:30 เพราะเมื่อคืนนอนหลับๆ ตื่นๆ ตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึง ตีสอง (รู้สึกตัวตอนเที่ยวคืนก็เปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็นอนต่อ เพราะที่หลับๆ ตื่นๆเพราะทำการบ้านอยู่ กะเอนหลังนิดหน่อย แต่ก็หลับไปไม่รู้สึกตัว) ตื่นมาอย่างแรกที่ทำก็คือ เปิดคอมพิวเตอร์ แล้วการแปลง cd ที่อาจารย์ให้มาเป็น Mp3 เพราะซื้อเครื่อง Mp3 ไว้ก่อนมากะว่า เผื่อจะ้เอาไปฟังที่ไหนก็ได้ ระหว่านั้นก็ดู TV ไปด้วยรายการการตูน์ ก็เหมือนบ้านเรา
ประมาณ 9:30 ก็อาบน้ำ ,10:30 กินข้าว (มาม่าญี่ปุ่น)
ซื้อมาเก็บไว้หลายวันแล้ว เป็นมาม่าแห้ง แบบเติมน้ำสามนาที แล้วเทน้ำทิ้ง ก็อธ่อยดีนะ หวานๆ เผ็ดๆ ห่อใหญ่ๆ 99 เยน หลังกินเสร็จ ประมาณ 11:30 จิมมี่โทรมาชวนไปกินข้าวแถวนี้ บอกให้เตรียมตัวไว้ เที่ยงเจอกัน
พอเที่ยงตรงก็เดินไปหาของกินกันเป็นกลุ่ม 6 คน ก็เจอหลายร้าน แต่สรุปก็จบที่ร้านอูโด้ง แต่ไม่ได้กินเพราะยังไม่หิว ก็เลยขอตัวออกมาก่อน กะจะไปเดินหาข้าวหน้าเนื้ออธ่อยๆ แบบที่เคยกินเมื่อครั้งก่อน อากาศก็เย็นมากๆ และมีลมด้วย ใส่เสื้อธรรมดามา ถุงเท้าก็ไม่ได้ใส่ หนาวจริงๆ แต่ก็ยังเดินทางไปเรื่อยๆ เดินไปเดินมาในที่สุดก็หลง แต่ไม่ได้ตกใจอะไร เพราะตอนนี้ไปไหนมาไหนคนเดียวได้แล้ว ดูแผนที่ก็เป็น ต่อรถไฟฟ้าบนเดินใต้ดินก็เป็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้เอาแผนที่ขึ้นมาดู เจอร้านขายของอะไรก็แวะดูราคาแต่ก็ไม่ซื้อรู้สึกว่าแพง เพราะมากกว่า 100 เยน สงสัยติดใจร้าน shop 99 แล้ว

ในที่สุดกินเดินมาเจอเรื่อง shop99 เป็นเรื่องเดียวกันกับที่ซื้อเป็นประจำ แต่วันนี้เดินมาอีกทาง เลยไม่รู้ว่าเดินไปไหน ก็เลยซื้อของกิน กะซื้อมื้อค่ำด้วย และอุปกรณ์สำหรับรับประทานอาหาร ช้อน ตะเกียบ ชาม ที่จริงซื้อรสดีถุงใหญ่มา เห็นมีแถมช้อนด้วยตอนจัดกระเป๋า เห็นลูกเล่นอยู่ไม่ได้สนใจ พอมาถึงนี้หายไปแล้ว วันนี้ก็ต้องจ่ายไปทั้งหมด 1,249เยน แพงที่สุดก็ ปลาหมึกยักษ์ย่างราคา 299 เยน
ที่ว่าซื่อ shop99 เพราะราคาลงท้ายด้วย 99 ไม่ใช่ว่าไม่มีของราคาเกิน 99 เยนนะ

ขาเดินกลับที่พัก ลมการพัดแรง ตอนนี้ก็ประมาณ 13:30 เดินไปก็นึกไป วันนี้เห็นอะไรบ้าง ในร้านที่แวะเห็นย้ายพาหลานมาซื้อขนม พี่พาน้องมาซื้อขนม แม่มาซื้อขนมกับลูก โตไล่ๆกับลูก แต่พูดภาษาญี่ปุ่นเก่งกว่าผมอีก มีศัพท์หลายคำที่ยังไม่ได้เรียน ระหว่างทางก่อนถึงก็มีจักรยานสองคันขี่ตามหลังมา เป็นพ่อแม่ลูก พ่อขี่นำแม่กับลูกขี่ตาม ผมหยุดให้เขาไปก่อน เขาก็พูดว่า "โกเมงนาไซร์ " (คำขอโทษแบบสุภาพมาก) จริงๆ แล้วผมกะจะดูหน้าลูกเขา เป็นเด็กผู้ชายด้วย ก็น่ารักดีนะ

คิดขึ้นได้ว่าวันนี้ทำไมไม่เห็นหน้าลูกเมียนะ แล้วก็รู้สึกว่าสงสัยลูกเมียต้องคิดถึงแน่ๆ เลย
( อยากพาลูกเมียมาอยู่ด้วยจัง ถ้าไม่คิดค่าที่พัก กินแบบง่ายๆ ก็อยู่ได้อย่างสบายๆ )

พอถึงที่พักก็ทำข้าวกินก็เป็นมาม่าแต่มีปลาหมึกด้วย เสร็จก็ดูทวีและทำการบ้านอ่านหนังสือจนถึง 18:30 ก็ทำอาหารกินอีก ก็เป็นมาม่าอีกแต่รสไม่ซ้ำกัน อธ่่อยไปคนละแบบปลาหมึกยังเหลือ ก็เอามากินอีก สักพักก็โทรศัทพ์ไปหาที่บ้าน ทั้งมือถือ และบ้านไม่มีคนรับสายไม่รู้เป็นอะไร อย่างบอกครอบครัวว่า โกเมงนาไซร์นะ.

[ 21:37 ] Bye

วันจันทร์, มกราคม 29, 2550

วันที่26 มกราคม 2007 ,OSAKA City Tour

วันนี้เป็นวันที่สาม แผนกำหนดไว้เป็นวัน OSAKA City Tour

ก่อนออกจาก KKC(Kansai Kenshuu Center) คุณนากะ ได้แจกเงิน 500เยน และตั๋วสำหรับใช้ในขาไป ส่วนขากลับให้ซื้อเอง และให้ทุกคนใช้เครื่อง receiver(เครื่องรับวิทยุ) เพื่อเวลาเดินไปคุณนากะ็จะได้อธิบายไปด้วยตลอดทาง

จากนั้นก็เริ่มเดินทาง อย่างแรกที่อธิบายคือ ตู้ไปรษณีย์วิธีใช้ก็เหมือนของบ้านเรา ,อย่างที่สองป้อมตำตรวจ โกบัง こうばん มาจากภาษาอังกฤษ แต่ทำไมเป็นตัวฮิรางานะ ひらがな ก็ไม่รู้ซิ สงสัยใช้มานานแล้ว จากนั้นก็เดินไปจนถึงสถานนีอาบิโกะ あびこ เป็นสถานนี้รถไฟใต้ดินที่ใต้ちかけつ ที่ใกล้ที่สุด

เวลาซื้อตั๋วเราต้องดูว่าเราจะไปไหนแล้วก็ดูราคาที่แสดง จากนั้นก็ไปที่ตู้ขายตั๋วแล้วใส่เงิน เลือกขบวนที่จะขึ้น ปกติก็จะมีสีที่แตกต่างกัน ทำให้ช่าวต่างชาติอย่างเราเข้าใจได้ง่าย แต่จริงก็ไม่ต้องสนใจสีอะไร ราคาตรงกันก็ใช้ได้ พอกดสีขบวนที่จะไป ก็จะมีราคาแสดงให้เรากดตรงจำนวนเงินที่เราจะซื้อ (ต่างจากบ้านเราที่ใส่เงินหลังจากที่เลือกปลายทางที่จะไป) พอซื้อตั๋วเสร็จก็ให้ดูดีๆ ว่าเราต้องเปลี่ยนสายอะไรบ้าง และที่สถานนีไหน เอานี้สำคัญเพราะถ้าดูผิดจะเสียเวลาหลงคงไม่หลงเพราะป้ายทำดีมาก

ระหว่างทางคุณนากะเล่าให้ฟังว่า (คนญี่ปุ่นที่โอซาก้าจะเดินชิดขาว ที่โอซาก้าสมัยก่อนคนที่เป็นสามูไรมีมาก และส่วนมากก็ถนัดขาว เวลาชักดาบจะได้ชักอย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนที่นี่เดินชิดขาว ส่วนที่โตเกียวจะชิดซ้ายเหมือนบ้านเรา และรถยนต์ก็ขับเหมือนบ้านเรา)

มาถึงพิฑิธภัณฑ์โอซาก้าเวลา 14:20 มีทั้งหมด 8ชั้น ชั้นบนสุดเป็นสมัยโบราณที่สุด แต่ละชั้นก็จะอธิบายความเป็นอยู่ของคนแต่ละสมัย ใช้เวลาเวลา ชั่วโมงครึ่งหลังจากนั้น คุณนากะก็พาไปย่านเครื่องใช้ไฟฟ้าของโอซาก้าชื่อว่า Nipponbashi จากนั้นก็แยกย้ายกัน แล้วแต่ใครจะเดินดูอะไร เป็นอันจบการทัศนศึกษานอกสถานทีของวันนี้

หลังจากนั้นก็เดินดูกล้องที่ BigCamera ビックカメラ ที่ญี่ปุ่นก็เหมือนศุนย์การค้าอิเล็กทรอนิกส์ (คอม,กล้อง,เกม) เดินดูก็ไม่ได้ซื้ออะไรที่นี่ มี duty free ด้วย(สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ไม่เกินหกเดือนจะได้ยกเว้นภาษี5%) เดินถูกของไปเรื่อยๆ จนถึงเวลา 18:00 ก็กลับ KKC ตอนนี้ก็ได้ทดลองเดินทางด้วยตนเอง และเปลี่ยนรถเอง ง่ายมากอยู่ที่ต้องดูแผนที่ให้ดีๆ และต้องไปให้ถูกทิศ พอถึงKKC ก็ได้เวลารับประทานอาหารเย็น

/// สำหรับรูปจะ up ที่หลังครับ

วันพฤหัสบดี, มกราคม 25, 2550

ผลการสอบแบ่ง Class

วันนี้ในช่วงเช้าคุณ Naka อธิบายการใช้ชีวิตในญี่ปุ่น และให้ทุกคนแนะนำตัวเองใหม่อีกรอบ แบบละเอียด และแบบธรรมชาติโดยใช้ภาษาไทยเพื่อให้ทุกคนในชั้นเข้าใจ จากนั้นก็อธิบายรายละเอียดทั้งหมดในการเรียน 6 อาทิตย์ ที่สำคัญ เรื่องเงินก็อธิบายอย่างละเอียดจนทุกคนไม่มีคำถาม

ในช่วงเที่ยงผลการสอบมีติดประกาศไว้ที่แผนกต้อนรับ(うけつけ) ปรากฎว่าผมได้เรียนห้องระดับ2 ใช้หนังสือ KisoII เทียบเท่ากับ Minino nihongo เล่ม 3,4 ก็รู้สึกดีใจที่เราทำข้อสอบได้แต้หลังจากได้เรียนแล้วก็รู้สึก กลัวว่าจะทำให้เพื่อนที่อยู่ใน Class นี้ต้องช้าไปด้วย(จริงๆ ก็มีปุ๋ย กับจ่อยที่ไปได้เร็ว) ต่อจากนั้นพอเลิกเรียนผมก็ไปเล่นกีฬา ตอนนี้ที่เล่นอยู่มีประกาศจาก うけつけ ว่าให้มาพบ พอไปถึงก็รู้ว่าอาจารย์ たかこ เรียกมาคุยเรื่องการย้ายกลับไปเรียน kisoI ผมก็ตอบอาจารย์ว่า
わたしは をべんきょうしたいです。  
อาจารย์: がんばって きださいね。 
ผม: がんばります。

โชดดนะีที่ AOTS มีระบบ WebBaseTraining ทำให้นักเรียนสามารถเรียนล่วงหน้าด้วยตนเองได้ อยู่ที่ว่าเราจะจำได้เร็วขนาดไหน ถ้าจำได้เร็วก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา がんばろう。

วันพุธ, มกราคม 24, 2550

ห้องพัก:部屋:へや

สอบเสร็จไม่รู้จะไปไหนเลยกลับห้อง แล้วก็เอา webcam ตัวที่มีอยู่มาลองถ่ายภาพห้องส่งให้ทางบ้านดูู่

ทำไงได้ตอนนี้ต้องเก็บตรังเลยยังไม่กล้าซื้อกล้อง (รอเห็นแบบถูกใจ) ภาพที่ได้ก็เลยไม่ค่อยละเอียดสักเท่าไหร่ แต่ทำแบบ
360 องศานะ

วันแรกของการเรียน KCC

วันนี้เป็นวันแรกที่มีพธีเปิดอย่างเป็นทางการ มี host Company มาร่วมในงานนี้ด้วย และก็ได้เจอกับเจ้านายในอนาคต Morozumi san

Muneaki Morozumi
Manager
International Traing Department
Education&Traing Center
NEC Telenetworx, Ltd.
URL http://www.ntwx.co.jp/

ในงานมีคุณ NAKA ( Takao Naka ) เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลระหว่างที่อบรม 6 สัปดาห์
จุดประสงค์ของโครงการมีสามข้อ
1. พัฒนาความสามารถภาษาญี่ปุ่นเป็นจุดมุ่งหมายหลักของโครงการ
2. สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุด
3. สามารถปรับตัวกับสิ่งแวกล้อม เพื่อใช้ในการฝึกงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลังจากนั้นก็อธิบายรายละเอียดของ Couse และวิธีการเรียนPublish
วิธีการแบบ Class โดยมีการวัดด้วยการสอบ ในช่วงบ่าย

แล้วก็อธิบายอุปกรณ์การเรียนที่แจกให้ และแผนที่

รูปในงานพธีปิด Estate

ตอนที่มีการ show robot พอดี หุ่นที่เขียนโปรแกรมชนะ นักข่าวเลยสนใจ

วันอังคาร, มกราคม 16, 2550

วันนี้ไปรับตั๋วมาแล้ว

วันนี้ไปรับตั๋วมาแล้วเป็น E-Ticket รายละเอียดตามด้านล่าง President NEC Thailand
Yamada san เป็นผู้มอบให้ ก็มีการสนทนา 日本語 นิดหน่อย และ 英語 อันนี้หนักเลย
ต้องฝึกตัวเองแล้วสิเรา がんばってね。
---------------------------------------------------------------------------------
-- ขาไป ---
From(Bangkok)
To(OSAKA Kansai)
Flight(TG672)
DateTime(22JAN 2359)

-- ขากลับ ---
From(Tokyo Narita)
To(Bangkok)
Flight( - )
DateTime( - )

เหลืออีกไม่กี่วันแล้วสินะ

  ตอนนี้ก็เตรียมของต่างๆ ใกล้จะครบแล้วรู้มาว่าของทั้งหมดที่ Load ใต้ท้องเครื่องได้ 20kg แต่เพื่อนที่มีประสบการณ์บอกว่าจริงๆ แล้ว visa ที่ไม่ใช่ท่องเที่ยวสามารถเอาไปได้มากกว่า 20kg หรือขอเขาก็ได้ บางคนก็เอาขึ้นเครื่องมากกว่า Load ใต้ท้อง ในส่วนของยาทาง AOTS ได้แนะนำว่าอย่านำยาอะไรไปด้วย แต่ถ้าต้องเอาไปจริงๆ ต้องมีสลากชัดเจนจะดีกว่านะ
ส่วนเรื่องเรียน เหลืออีกหนึ่งวันก็จะจบหลักสูตร みんなの日本語 เรียนไปทั้ง 3 เล่ม เล่มที่4 ไม่ได้เรียนเพราะเวลาไม่พอ วันนี้ก็ว่าจะไปหาซื้อเอาไปอ่านเองที่ญี่ปุ่น รวมชั่วโมงเรียนแล้ว 320 ชั่วโมง